วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

'รงค์ วงษ์สวรรค์ ขึ้นหน้าหนึ่ง




หนังสือพิมพ์บางกอกไทม์ ประจำวันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2511 มี 'รงค์ วงษ์สวรรค์ ปรากฏทั้งพาดหัวและภาพข่าว

พาดหัว เผยสภาพนักเรียนไทยในต่างแดน คิกเกอร์รับบรรทัดต่อมาว่า รงค์ วงษ์สวรรค์ว่าในสหรัฐยาป้องกันมีลูกขายดี ส่วนภาพข่าวเป็นภาพที่เราคุ้นเคยกันดี มีบรรยายใต้ภาพว่า รงค์ วงษ์สวรรค์ นักเขียนหนุ่มเผยชีวิตคนไทยในสหรัฐฯจากประสบการณ์ที่ผ่านมา

เนื้อข่าวช่วงแรกเกริ่นถึงเสียงลือเสียงเล่าอ้างเกี่ยวกับพฤติกรรมของนักเรียนไทยในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ว่ามีการรวมกลุ่มหาประโยชน์จากเพื่อนนักเรียนไทยด้วยกันที่ไปถึงใหม่ด้วยการหลอกสูบเงินไปเที่ยวเตร่หาความสำราญ ถ้าเป็นผู้หญิงจะฉวยโอกาสด้วยเรื่องทางเพศ เป็นเหตุให้เด็กใหม่ต้องเขียนจดหมายขอเงินจากทางบ้านกันมากผิดปกติ บ้างทำตัวฟุ้งเฟ้อจนมีหนี้สินท่วมตัว ยังไม่นับพฤติกรรมติดการพนัน บ้างก็สำส่อนเพราะถือว่ายาคุมกำเนิดหาซื้อง่าย

ต่อมาเป็นคำบอกเล่าของ 'รงค์ วงษ์สวรรค์ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวซึ่งเราคัดมาให้อ่านทั้งหมดดังนี้ 




จากกระแสข่าวที่รายงานพฤติกรรมของนักเรียนไทยในต่างแดนดังกล่าวข้างต้นนั้น และเพื่อจะคลี่คลายข้อเท็จจริงของข่าวที่ได้รับมานั้นว่ามีมูลความจริงแค่ไหนเพียงไร ในโอกาสนี้เราจึงได้ไปพบกับ 'รงค์ วงษ์สวรรค์ นักเขียนหนวดงาม ผู้มีเรือนร่างเหมือนกับฮิปปี้ที่สำนักงานหนังสือพิมพ์สยามรัฐสัปดาหวิจารณ์เมื่อตอนสายวันจันทร์ที่ 17 เดือนนี้ในฐานะที่นักเขียนหนวดงามผู้นี้ได้มีโอกาสไปใช้ชีวิตอยู่ในสหรัฐอเมริกามาเป็นเวลาสี่ปีเต็มๆ ซึ่งทำให้เขาได้รู้ได้เห็นชีวิตของคนไทยที่อาศัยผืนแผ่นดินนั้นอยู่อย่างทะลุปรุโปร่ง และต่อพฤติการณ์ดังกล่าวข้างต้นที่เรานำเอาไปถามอย่างเป็นกันเองนั้น เขาตอบสวนออกมาด้วยสำนวนสะบัดทันควันว่า

"ล้อส แอนเจลิส...แซนแฟรนซิสโกที่เรียกว่าเป็นเมืองร้ายที่สุด ผมก็ซุกหัวมาถึงสี่ปียังไม่เคยเห็นนักเรียนไทยสำแดงเดชยังงั้นเลย ผมอยู่เมืองนอก ได้อ่านข่าวหนังสือพิมพ์ไทยเขียนข่าวกันอย่างว่าผมยังอดขันๆ ไม่ได้ เข้าใจว่าคนไทยในเมืองนอกอาจจะไม่เข้าใจนักเรียนไทยอย่างลึกซึ้งก็ว่าได้ ต้องเข้าใจกันอีกว่าคนไทยในเมืองมะริกานั้นมีอยู่ด้วยกันหลายฐานะ มีทั้งนักเรียนนักแสวงหาโชคที่ไปหางานทำ ส่วนอย่างผมไปอยู่คนละอย่าง เป็นนักเขียนเพื่อไปหาประสบการณ์มาเขียนให้คนไทยอ่าน ผมใช้ชีวิตคลุกคลีอยู่กับนักเรียนไทยมามาก หมกกันถึงที่นอนหมอนมุ้ง ไม่เคยเห็นนักเรียนไทยคนไหนทำบัดสีเล่นสัปดน หรือว่าจะมีผมก็ไม่รู้เค้า เพราะยาคุมกำเนิดในเมืองมะริกาขายดิบขายดีขายกันอย่างเสรี แม้แต่คนอเมริกันเองก็ไม่กลัวในเรื่องอย่างนี้ แต่นั่นแหละ อย่าเพิ่งไปโทษพวกนักเรียนไทยเลย เป็นธรรมดาคนที่จากถิ่นไปอยู่ต่างแดน เมื่อเจอหน้าคนเมืองเดียวกันก็ต้องอดจับมือเป็นเพื่อนกันไม่ได้ ความสนิทสนมก็ย่อมจะกระชับเกลียวกันเป็นของธรรมดา ใครมองใครเห็นก็คิดว่าเป็นคนรักกัน ผมไม่อยากลงโทษใคร ผู้หญิงผู้ชายเมื่ออยู่ใกล้กันก็เข้าทำนองว่าน้ำตาลใกล้มือใครล่ะจะอดได้ แต่เรื่องอย่างนี้พิสูจน์กันยาก รวมความแล้วนักเรียนไทยที่ผมเห็นมาไม่เคยก่อพฤติการณ์ให้ผมเห็นเลย" เขาจบลงพร้อมกระดกหนวดขึ้นให้เห็นรอยยิ้มออกมานิดๆ เหมือนคนที่กำลังมีอารมณ์เบิกบาน

'รงค์ วงษ์สวรรค์ ยักไหล่แบบอเมริกันนิดหนึ่งแล้วเปิดเผยชีวิตของคนไทยอีกประเภทหนึ่งที่ไปหากินอยู่ในอเมริกาว่า "ผม...ไม่อยากจะเรียกว่าคนไทยนักแสวงหาโชค อยากจะพูดว่าคนไทยที่ไปหางานทำในอเมริกา ข่าวว่าเดี๋ยวนี้มีจำนวนมากขึ้น คนไทยประเภทนี้ไม่มีฐานะอยู่อย่างนักเรียน คนไทยพวกนี้ย่อมจะใช้ชีวิตยังไงก็ได้ เขามีอิสระกับชีวิตเหมือนคนอเมริกัน ใครไม่รู้เมื่อเห็นคนไทยประเภทนี้ควงคู่แสดงบทโรมานซ์ก็เลยเหมาเอาว่านักเรียนไทยไปฉิบ น่าปวดหัว..."

"คุณใช้ชีวิตอย่างไรในเมืองคนดุ?" เราตั้งปัญหาถามเขา หลังจากที่ได้คุยถึงเรื่องคนอื่นมาพอสมควรแล้ว

ก่อนตอบเขาเอียงคอนิดหนึ่ง แล้วก็ปล่อยดวงตาปรอยๆ ออกมา "ผมอยู่อย่างนักเขียน อยู่อย่างคนธรรมดาสามัญ เช่าอพาร์ตเมนต์อยู่ก็ไม่ใช่ว่าดิบดีอะไร เดือนหนึ่งตั้งร้อยเหรียญ อาศัยรายได้จากการเขียนหนังสือส่งมาขายในเมืองไทยเพื่อไปแลกกับขนมปัง ที่อยู่อาศัย แต่...คุณเอ๋ย, อย่าให้พูดเลยคิดถึงเมืองไทยเกือบจะเป็นบ้า ไม่ว่าที่ไหนสู้เมืองไทยไม่ได้ มีแต่ความอบอุ่น อยู่เมืองฝรั่งประเพณีตัวใครตัวมัน วัฒนธรรมคนละแบบ บางวันดอลลาร์เกลี้ยงกระเป๋าหิวจนนึกว่ามันน่ากลัวความตาย ตกเย็นค้นหาเพนนีได้สามสิบกว่าอัน ซื้อได้ปลาซาร์ดีนกระป๋อง เอามาโรยหอมซอยโรยเกลือให้เค็มจัด และพริกป่นเม็กซิกันป้ายบนแผ่นขนมปังจวนจะขึ้นรา กินพลางน้ำตาไหลคิดถึงข้าวราดแกงปลาดุกกับเนื้อเค็มฉีกฝอยและหมูผัดขิง...... ไปตลอดถึงอีกวันก็ยังไม่ได้กินอะไรนอกจากน้ำร้อนเทลงล้างขวดกาแฟผง แล้วรินใส่ถ้วยกินพอร้อนท้อง รสมันบัดซบ ดีกว่าน้ำปลา...นี่แหละชีวิตในลอสแองเจลิสแล้วก็แซนแฟรนซิสโกของผมล่ะ"

เขาจบลงพร้อมกับเสียงหัวเราะดังกังวานติดตามออกมา












หมายเหตุ : เนื่องจากเนื้อข่าวช่วงท้ายหมึกพิมพ์จางไปพอสมควรจึงอาจถอดความได้ไม่ครบถ้วนทั้งหมด




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น