วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2558

'รงค์ วงษ์สวรรค์ ร่ายป่า-ราวดอย



คัดจาก 'รงค์ วงษ์สวรรค์ ร่ายป่า-ราวดอย 
สานใจคนรักป่า, เล่มที่ 47 กรกฎาคม-สิงหาคม 2544



"อาเป็นคนรักป่า แต่ไม่ใช่นักอนุรักษ์ป่าอย่างที่เขาหมายถึง นักอนุรักษ์ป่าเขาหมายถึงใครไม่รู้ หมายถึงคนที่นั่งอยู่ในห้องแอร์หรือเปล่า นานๆ เดินออกมาทีเห็นป่าก็ตื่นเต้นและคิดจะอนุรักษ์หมด ต้นไม้ล้มหนึ่งต้นก็นั่งร้องไห้

"อารักป่าโดยความรู้สึกว่าป่ากับคนต้องอยู่ด้วยกันได้ ต้องเอื้อเฟื้อต่อกันได้ คือคนก็ต้องไม่รังแกป่า ป่าไม่รังแกคนอยู่แล้ว แต่ว่าจะอยู่กันอย่างไรนี้คือปัญหา

"การทำลายป่าในประเทศไทย มันเริ่มต้นในสมัยรัฐบาลทหาร รัฐบาลในทศวรรษที่ผ่านมาที่มีความคิดเผด็จการเขาทำลายป่ากันแทบทุกภาคของประเทศไทย เพื่อจะตัดไม้เป็นธุรกิจ คนธรรมดาไม่มีใครทำลายป่าได้ ไม่มีอำนาจ ไม่มีเครื่องมือ เครื่องมือที่สำคัญที่สุดคือปืน

"ต้นไม้ใหญ่ๆ มันถูกทำลายไปหลายสิบปีแล้ว อย่าลืมที่เราเรียกว่าต้นไม้ใหญ่นั้นอายุควรจะ 100 ปีขึ้นไป 200 ปีถึง 300 ปี โดนตัดขายไปหมดแล้ว ตัดขายไปเป็นทุนรอนปฏิวัติรัฐประหาร ตัดไปเพิ่มต้วเลขในบัญชีธนาคาร

"การเป็นคนรักป่าไม่ได้แปลว่าเป็นคนไม่กินใบไม้ กินนะ ต้องกินใบไม้ ต้องหักแขนหักขาป่าบ้าง เอามาทำฟืน ไม่ใช่ปล่อยให้ฟืนมาหล่นใส่หลังคาบ้าน

"คนอยู่ในป่าคารวะป่า เขามีกฎเกณฑ์ เขาจะกลัวต้นไม้ใหญ่ๆ มากเหลือเกินว่ามันจะมีผีสางนางไม้ อย่างนี้จะทำให้ป่าไม่ตาย แต่เขาควบคุมตัวเองไม่ได้ เมื่อจำนวนประชากรมากขึ้น และเมื่อความเจริญอย่างน่าทุเรศที่ภาษารัฐบาลเรียกว่าการ "พัฒนา" ทะลักเข้ามาในหมู่บ้าน

"ชาวบ้านปลูกพริก ก็ปลูกกันทุกบ้านจะไปขายใครที่ไหน แล้วเขาทำไง เขาต้องรุกป่าสิครับ พอมีคนมาแนะนำให้ปลูกกระเทียม เอาแล้ว ใครห้ามก็ไม่ได้หรอก...

"ต้องส่งเสริมให้มีคนแบบพะตีจอนิ โอโดเชา น่าจะมีคนอย่างนั้นมากๆ และต้องมีคนแบบนี้มาเอดูเคทกับคนที่เขาอยู่ในป่าด้วย แต่ว่าไม่ใช่ไปปลุกระดมให้เป็นศัตรูกับองค์กรของรัฐ องค์กรของรัฐก็เหมือนกันจะต้องถ่อมตัวลงมา ให้มาเดินคุยกับคนในป่า รู้จักยกมือไหว้กับคนในป่าเขาบ้าง

"จะแก้ปัญหาคนในป่าต้องเข้าใจคนในป่า เหมือนอามาอยู่ที่นี่อาเน้นเสมอ อามาน้อมต่อป่านะ ต้องศึกษาว่าใบไม้ไหนจะร่วงเดือนไหน จะโปร่งเดือนไหน เดินดูแลเขา พอเห็นเขาจะเป็นโรคต้องพรูนนิ่งซิสเต็ม ไปตัดกิ่งตัดก้านที่มีเชื้อรา เชื้อโรค .. นี่ต้องศึกษาเขา ดูแลเขา"






1 ความคิดเห็น: